ดูบทความ
ดูบทความโรคเก๊าท์ กับ สมุนไพรหมอเส็ง
โรคเก๊าท์ กับ สมุนไพรหมอเส็ง
โรคเก๊าท์
เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดจากร่างกายมีกรดยูริคสะสมมากเกินไป จนตกตะกอนเป็นผลึกยูเรทตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกายโดยเฉพาะภายในข้อต่อและพังผืด รอบๆข้อและไต
กรดยูริคเกิดขึ้นได้อย่างไร?
โดยปกติ ร่างกายของคนเรามีการสร้างกรดยูริคอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว กรดยูริคส่วนใหญ่ราว 2 ใน 3 เป็นของเสียที่เกิดจากขบวนการสร้างเซลล์ใหม่ๆ เพื่อทดแทนเซลล์เก่าที่แก่เฒ่า หรือตายไปซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา กรดยูริคส่วนน้อยเกิดจากการสลายของอาหารพิวรีนหรือโปรตีนที่กินเข้าไป นั่นเอง
กรดยูริคที่เกิดขึ้น ประมาณ 2 ใน 3 ส่วน ร่างกายจะขับออกจากทางปัสสาวะและที่เหลือโดยทางอุจจาระ ดังนั้นผู้ที่มีกรดยูริคสูง จึงไม่ได้เกิดจากการกินอาหาร “แสลง” หรือโปรตีนมากเกินไปดังที่เข้าใจผิดกันบ่อยๆ แต่มักจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายเกี่ยวกับการสร้างมากเกินไป หรือไตขับกรดยูริคน้อยเกินไป
สาเหตุของโรคเก๊าท์
หรือสาเหตุที่ร่างกายมีกรดยูริคสูงผิดปกติ แบ่งออกเป็น 2 จำพวกคือ
- เก๊าท์ปฐมภูมิ ผู้ป่วยกว่าร้อยละ 90 จะอยู่ในกลุ่มนี้ โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการที่ไตขับถ่ายกรดยูริคน้อยเกินไป โดยมักเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เพศและฮอร์โมนทางเพศด้วย เพราะเก๊าท์พบบ่อยในชายวันกลางคนมากกว่าเพศหญิงราว 9-10 เท่า และเพศหญิงมักจะเป็นโรคเก๊าท์ในวัยสูงอายุ หรือหลังจากหมดระดูไปแล้ว 10-20 ปี
- เก๊าท์ทุติยภูมิ หมายถึง ผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำตัวอื่นอยู่แล้วหรือกินยาที่ใช้รักษาตัว เป็นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกรดยูริคในเลือดสูงจนเกิดอาการโรคเก๊าท์เป็นผลพวงตามมา ตัวอย่าง เช่น
- โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย มะเร็งเม็ดเลือดโลหิตขาวบางชนิด
- โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจบางชนิด
- ผู้ป่วยที่กินยาประจำบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแอสไพรินขนาดน้อยๆ ยาต้านวัณโรค เป็นต้น
โรคเก๊าท์ที่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ พบได้น้อยมาก คือ ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมด
สำหรับโรคเก๊าท์ปฐมภูมิ แบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ
- ระยะที่ไม่มีอาการ ตรวจพบกรดยูริคในเลือดสูงเท่านั้นซึ่งในเพศชายจะเริ่มมีกรดยูริคสูงตั้งแต่อายุ 14-15 ปี หรือเริ่มเป็นหนุ่ม ในเพศหญิงจะเริ่มสูงหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
- ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน โดยมักเริ่มปวดบวมที่ข้อเท้าหรือหัวแม่เท้า อาการปวดข้อรุนแรงมากจนเดินไม่ได้หรือเดินลำบาก หากรับการรักษาอาการจะหายสนิทได้ภายใน 1-3 วัน หากปล่อยไว้ก็อาจหายเองได้ภายใน 4-6 วัน โดยข้ออักเสบจะหายเป็นปกติ
- ระยะเป็นๆ หายๆ อาการข้ออักเสบจะกำเริบเป็นซ้ำที่เดิมเป็นๆหายๆ เริ่มแรกอาจกำเริบปีละ 1-2 ครั้ง ต่อมาถี่ขึ้นเป็นปีละ 4-5 ครั้ง ข้ออักเสบจะเพิ่มจำนวนขึ้นจาก 1-2 ข้อ, 3-4 ข้อ จนเป็นหลายๆข้อ เช่น ที่ข้อเท้า 2 ข้าง, เข่า ช่วงเวลาที่ข้ออักเสบจะยาวขึ้น เช่น เป็นครั้งละ 5-7 วัน, 7-10 วัน เป็นต้น
- ระยะข้ออักเสบเรื้อรัง มักมีข้ออักเสบหลายข้อ และเป็นตลอดเวลา ไม่มีช่วงเว้นว่างหายสนิทอีกระยะนี้มักจะมีปุ่มก้อนขึ้นตามข้อต่างๆที่มีอาการอักเสบ เช่น ที่ตาตุ่มของเท้า หัวแม่เท้า ข้อศอก เข่า ข้อมือ เป็นต้น ปุ่มเหล่านี้ คือ ก้อนผลึกยูเรทที่สะสมมากขึ้นๆ บางครั้งจะแตกออกเป็นสารขาวๆ คล้ายยาสีฟันไหลออกมา หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยจะมีข้อพิการผิดรูปปวดทุกข์ทรมานมาก และอาจมีโรคไตวายแทรกซ้อนได้ อาการจากระยะที่ 1 จนถึงระยะที่ 4 อาจใช้เวลาหลายสิบปี แต่ในรายที่รุนแรงอาจใช้เวลาเพียง 5-10 ปี เท่านั้น และหากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจนเกิดภาวะไตวายแทรกซ้อนยิ่งจะทำให้เกิดโรคเก๊าท์เป็นรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย
Cr.ภาพ phetcharathospital
การป้องกันและดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคเก๊าท์
การป้องกันโรคเก๊าท์ที่สามารถทำได้ คือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคด้วยการไม่รับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่วนการดูแลตัวเองของผู้ป่วย
- พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางตามนัดทุกครั้ง และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ อาหารทะเลบางชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเน้นรับประทานโปรตีนจากผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรศึกษาอย่างละเอียดว่าอาหารชนิดใดควรหรือไม่ควรรับประทาน หลีกเลี่ยงฟรุกโตสซึ่งพบมากในน้ำอัดลม
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน ไม่ควรลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเพราะอาจเป็นการเพิ่มระดับของกรดยูริกได้
- ดื่มน้ำให้มากเพื่อขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ
- หากมีอาการปวดเฉียบพลันให้พักการใช้ข้อที่อับเสบ แล้วใช้วิธีประคบเย็นช่วยบรรเทาอาการ
Cr ข้อมลจาก .bumrungrad/thonburihospital
โรคเก๊าท์ แนะนำสมุนไพร หมอเส็ง 2 สูตร
1.สตาร์ไลฟ์111
รับประทาน ครั้งละ 30 มล.เช้า-เย็น
2.ยาปวดเมื่อย
รับประทานคร้งละ 50มล.ครึ่งขวด(ก่อนอาหาร)เช้า-เย็น
การรับประทานสมุนไพรหมอเส็ง ช่วยให้ระบบกลไกการทำงานของร่างกายมีความสมดุล ฟื้นฟู กระตุ้นเซลล์ที่เสื่อมให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง เสริมภูมิต้านทานโรค เมื่อร่างกายแข็งแรงดี โรคจะเบาลง สอบถามสั่งสินค้า
30 กรกฎาคม 2566
ผู้ชม 15892 ครั้ง